เมนารินี เอสเธติกส์ ประเทศไทย จัดสัมมนาวิชาการแนะนำเทคโนโลยีความงามระดับโลกในหัวข้อ “Breakthrough Innovation in HA Dermal Fillers” เผยนวัตกรรมเพื่อความอ่อนเยาว์ล่าสุด ‘XTRTM TECHNOLOGY’ ในฟิลเลอร์อิตาลี ให้กับแพทย์ความงามจากทั่วประเทศ พร้อมอัพเดทเทรนด์ความงามของกลุ่มมิลเลนเนียล
บริษัท เอ.เมนารินี (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทยาชั้นนำจากประเทศอิตาลี ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการวิจัยและพัฒนายาและเครื่องมือแพทย์มาอย่างยาวนาน ร่วมกับบริษัทรีไลฟ์ เมนารินี กรุ๊ป (RELIFE Menarini Group) บริษัทชั้นนำด้านเวชศาสตร์ความงามระดับโลกจากประเทศอิตาลี เปิดตัวทีมเมนารินี เอสเธติกส์ ประเทศไทย (Menarini Aesthetics Thailand) อย่างเป็นทางการ พร้อมสัมมนาวิชาการเรื่อง ‘Breakthrough Innovation in HA Dermal Fillers’ แนะนำเทคโนโลยีล่าสุด XTRTM Technology และอัพเดทเทรนด์ความงามของคนยุคมิลเลนเนียลในหัวข้อ ‘Global Beauty Trends & Millennials Prejuvenation’ กับนายแพทย์วินเซนต์ วอง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามจากประเทศอังกฤษ โดยมี ภญ.วิลาวัณย์ วรชาครียนันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด จากบริษัท เอ.เมนารินี (ประเทศไทย) และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านความงามในประเทศไทย นพ.ดนัยย์ ประดิษฐสุวรรณ์, ดร.นพ.วรพล
เวชชาภินันท์ และ ผศ.พญ.แพรมาลา ฉายาวิจิตรศิลป์ ร่วมบรรยายให้กับแพทย์ความงามภายในงาน
นายทอม เบอร์ซิงเกอร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ.เมนารินี (ประเทศไทย) จำกัด และ Regional Vice President Thailand, Vietnam & Emerging Markets กล่าวว่า “เอ.เมนารินี (ประเทศไทย) และ รีไลฟ์ เมนารินี กรุ๊ป ได้เริ่มเข้าสู่ตลาดความงามในประเทศไทยด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ Italian Threads Lifting ไหมยกกระชับจากประเทศอิตาลี และ Calecim® Professional ผลิตภัณฑ์เวชสำอางที่มี Growth Factors เข้มข้นช่วยในการดูแลผิวหน้าหลังการทำทรีทเมนต์ต่างๆ และสร้างคุณภาพผิวที่ดี (Creating a better skin quality) ในปี 2018 และ 2020 ตามลำดับ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและผู้บริโภคกลุ่มพรีเมียม
ด้วยความมุ่งมั่นของเราและความพร้อมทางเทคโนโลยีด้านความงามที่ล้ำหน้า เราจึงได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ล่าสุดในกลุ่มสารเติมเต็ม HA Dermal Fillers ที่มีอยู่ใน Italian Filler ให้กับแพทย์ความงาม ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนา Medical Education และเพิ่มศักยภาพด้านการแพทย์เวชศาสตร์ความงามในประเทศไทย ส่งเสริมให้เกิดผลลัพธ์ในการดูแลรักษาให้ดีมากยิ่งขึ้น”
ภญ.วิลาวัณย์ วรชาครียนันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอ.เมนารินี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึง ภาพรวมตลาดความงามในประเทศไทยว่า “ในวันนี้เราได้เปิดตัวทีม เมนารินี เอสเธติกส์ ประเทศไทย (Menarini Aesthetics Thailand) นับเป็นอีกก้าวสำคัญของ เอ.เมนารินี ด้วยการเติบโตของตลาดความงามประเทศไทยในปัจจุบัน ที่ไม่ได้รองรับเพียงคนไข้ในประเทศ แต่ยังเป็น HUB ด้านเวชศาสตร์ความงามในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านและนานาประเทศอีกด้วย
ซึ่งปัจจุบันรูปแบบการดูแลคนไข้ความงามจะเป็นแบบ Patient centric approach คือ ให้คนไข้เป็นศูนย์กลาง โดยการใช้บริการด้านความงามของกลุ่มมิลเลนเนียลที่มีอายุระหว่าง 26-40 ปีพบว่ามีอัตราสูงกว่า Gen อื่นๆ และด้วยพฤติกรรมการใส่ใจด้านสุขภาพความงามมากยิ่งขึ้นของคนในปัจจุบันนี้เอง เราจึงไม่หยุดที่จะพัฒนานวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อดูแลคนไข้ให้ดีที่สุดด้วยผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมที่หลากหลาย (Multimodality)
ทั้ง Italian Threads และเทคโนโลยีล่าสุดจาก Italian Filler
สำหรับผลิตภัณฑ์ Italian Filler กับเทคโนโลยี XTRTM Technology ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดในกลุ่มสารเติมเต็ม HA Dermal Fillers เพื่อยกกระชับปรับรูปหน้า มาพร้อม Innovative Glass Syring ซึ่งสะดวกต่อแพทย์ผู้ใช้ ฉีดได้ง่าย ให้ความสบายกับแพทย์และคนไข้ในการรักษา และยังอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอีกด้วย โดยเรามีแผน
จะเปิดตัว Italian Filler ให้กับกลุ่มผู้บริโภคในช่วงต้นปี 2023 นี้”
นายแพทย์วินเซนต์ วอง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามระดับโลก มาบรรยายในหัวข้อ ‘Italian Filler Breakthrough Innovation in HA Dermal Fillers’ พร้อมอัพเดทนวัตกรรมล่าสุดในการยกกระชับปรับรูปหน้าว่า “XTRTM (eXcellent Three-Dimensional Reticulation) Technology คือ เทคโนโลยีในผลิตภัณฑ์ Italian Filler ซึ่งเป็นนวัตกรรมในกลุ่มสารเติมเต็ม HA Dermal Fillers มีเฉพาะในแบรนด์คุณภาพสูงระดับโลก สามารถฟื้นฟูยกกระชับปรับรูปหน้าแบบไดนามิค 3 มิติ (3D Dynamic) ปรับรูปหน้าได้อย่างสมดุล คอนทัวร์มิติของใบหน้าให้ดูละมุนขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งเทรนด์ของการใช้สารเติมเต็มในปี 2023 จะเป็นการใช้อย่างพอเหมาะ (Optimal Volumization) โดยแพทย์จะทำการประเมินใบหน้าคนไข้แบบ Total facial approach และเลือกใช้สารเติมเต็มในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละบุคคล ทำให้ได้รูปหน้าที่เป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้น (Less is more) และสามารถปรับรูปหน้าให้ดูดีเป็นธรรมชาติ
ได้ในทันที (Immediate lifting effect)”
นอกจากนี้นายแพทย์วินเซนต์ วอง ยังได้อัพเดทเทรนด์ความงามล่าสุดของกลุ่มผู้บริโภค Gen Millenials หรือผู้ที่เกิดในช่วง พศ. 2524 – 2539 ว่า “กลุ่ม Millennials มีแนวโน้มที่จะเข้ารับการดูแลด้านผิวพรรณและความงาม
ในเชิงป้องกันมากกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มอายุอื่นๆ เกิดเป็นเทรนด์ความงามของผู้บริโภคกลุ่มนี้ เรียกว่า ‘Prejuvenation’ ที่มาจากคำว่า Prevention (การป้องกัน) และ Rejuvenation (การฟื้นฟู) เป็นการรักษารูปลักษณ์ที่อ่อนเยาว์และชะลอการเริ่มต้นของสัญญาณริ้วรอยตั้งแต่เนิ่นๆ ด้วยการใช้สารเติมเต็มไฮยาลูรอนิค แอซิด (HA Dermal Filler) โดย 82% ของกลุ่มผู้บริโภค Millenials มองว่าการรักษาด้วยทรีทเมนต์ต่างๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่สังคมให้การยอมรับ และกลายเป็นวัฒนธรรมของคนรุ่นใหม่ในการดูแลภาพลักษณ์ไปพร้อมๆ กับการดูแลสุขภาพเพื่อบ่งบอกตัวตน ประสบการณ์และคุณภาพชีวิต”
ภายในงานยังได้รับเกียรติจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามของประเทศไทย มาร่วมให้ข้อมูลและแชร์ประสบการณ์ อาทิ ผศ.พญ.แพรมาลา ฉายาวิจิตรศิลป์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม และกรรมการผู้จัดการเมโกะคลินิก ร่วมบรรยายในหัวข้อ ‘Asian Beauty Trends & Millenials Prejuvenation’, ดร.นพ.วรพล เวชชาภินันท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม สถาบันโรคผิวหนัง บรรยายในหัวข้อ ‘The Sciences Behind the Art of Italian Filler’ และ นพ.ดนัยย์ ประดิษฐสุวรรณ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านความงาม Aesthetics Practitioner & Surgeon และกรรมการผู้จัดการ DIAA Clinic ร่วมแชร์ประสบการณ์และผลลัพธ์ของการรักษาคนไข้เพื่อยกกระชับปรับรูปหน้าด้วยสารเติมเต็ม XTRTM Technology